3 หมื่นล้าน ผ่าทางตัน ไปไม่สุด ขุดไม่เจอ !

บริการ SaaS สมองออนไลน์

3 หมื่นล้าน ผ่าทางตัน ไปไม่สุด ขุดไม่เจอ !

ฟันธง !!

ฟันธงได้เลยครับว่า  ความพยายามในการถมทะเลแดงเดือดแวดวงไอที  โดย  “รัฐบาล Start Up”   ที่กล้าหาญประกาศไทยแลนด์ 4.0  จะกลายเป็นเพียงการละลายน้ำพริกครกใหญ่ใบเบ้อเร่อลงทะเลดิจิตัล  ที่กว้างใหญ่กว่าแม่น้ำหลายๆ สายหลายเท่ามากนัก

เป็นความพยายามในการผลักดันเม็ดเงิน มหาศาล  หลายครั้งหลายครา  เพื่อลงไปสู่กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่  กลุ่มคนไอทีและรวมไปถึง SME ในหลายสาขา  ผ่านการอนุมัติวงเงินกู้ช่องทางของแบงก์พานิชย์  และแบงก์เฉพาะกิจเครื่องมือของรัฐ   แต่ผลลัพธ์  กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า   เงินตกใต้โต๊ะ  เพราะไม่สามารถสร้างหน่อนักธุรกิจ ดิจิตัล ไอที  Fintech , Ed Tech, Med Tech, health Tech ให้เดินหน้าได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย  เพราะในความเป็นจริงคือ  แบงก์แทบทุกแบงก์ไม่กล้าปล่อยเงินกู้ทำนองนี้  เพราะด้านหนึ่งก็กลัวเรื่อง NPL  ที่คนลงชื่ออนุมัติฯ  จะพาลติดคุก  (ดังคำอ้างของแบงเกอร์หลายราย)  แต่ก็ขอขอบคุณที่แบงก์ได้ปล่อยเงินกู้เล็ก ๆ น้อยให้กับ SME รถเข็น  รายย่อยๆ  จำนวนหนึ่ง  ได้ต่อยอดต่อลมหายใจไปตายเอาดาบหน้า

เพราะแบงก์เหล่านี้ยังติดอยู่กับภาพเดิม ๆ ไม่เข้าใจ  ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมแม่แต่น้อย   คุณต้องมีของ  ต้องมีหลักทรัพย์   แล้วสตาร์ทอัพที่ไหนจะมี

การฟูมฟัก  Startup ในค่ายตัวเอง ของหลายแบงก์ช่างเป็นการกระทำที่สกปรก  น่าละอาย เป็นอย่างยิ่ง   เวที StartUp เหล่านั้นไม่ต่างกับการประกวดนางสาวไทย  เพื่อดูดดูทรวดทรง  ดูดความคิด  หลอกหลอน  Start Up  ให้ได้หลงไปกับการออกงาน  ออกบูธ  งานแล้วงานเล่า  จนหมดเงินหมดทอง  หมดแรงกันทุกก๊วนทุกเหล่า

จบลงด้วยการที่ทุนเหล่านั้นเปิดตัวทีมธุรกิจไฮเทคของตนเอง  ทิ้งไว้เพียง Start Up หลงโรง  ตกเวทีเหี่ยวตาย

สตาร์ทอัพเอง  ก็เป็นฝัน  ไม่มีของ  ไม่มีเทคโนโลยี  ขี่กระแส  ไร้สติ

มหาลัยหลายค่ายก็ไม่ต่างกัน  เหล่าคณาจารย์ที่ยังยึดติดกับการทำผลงานและการแก่งแย่งยศตำแหน่ง ชื่อเสียง  เพียงสมัยละไม่กี่ปี   ยินดีทำลายพันธมิตรได้ในทุกโอกาส  งานวิจัยน้ำจิ้ม  การปั้นโครงการเพื่อดูดเงินเข้ามหาลัย  ปั้นขยะลงถัง  ที่ลงท้ายด้วยความว่างเปล่า  เป็นมาอย่างนี้และจะมีสืบต่อไป

แต่ยังดี  ที่มีองค์กรใหญ่ ๆ ไม่น้อยที่มองเห็นทางรอด  ที่จะนำเรือฝ่าคลื่นด้วยการพัฒนาคนในองค์กรและเดินหน้าอย่างเต็มที่  (อยากให้รัฐบาล มองโมเดลนี้ไว้ดี ๆ)

อีก  3 หมื่นล้าน  ชะตากรรมที่ไม่ต่างกัน  แค่ต่างคนพูด  ไปไม่สุด  ขุดไม่เจอ  ประกาศตอนนี้ตีกะลาล่อหมาล่อแมว   อีก  6 เดือนจะเลือกตั้ง  ขาดคนคุมบังเหียน  ม้าก็หลงป่า  การหว่านเงินภาษีรอบนี้ก็จะล้มเหลวอีกเช่นเคย

“เครื่องจักรซอมบี้”   หรือ  Start Up ที่ไร้พลัง  ไร้การสนับสนุนอย่างจริงจัง  ก็จะเต็มบ้านเต็มเมือง

การคิดสร้างโมเดลไทยแลนด์ 4.0   ไม่ต่างจากการคิด โมเดลธุรกิจ   คิดผิด  ทำผิด  มักง่าย   แจกเงินพอเป็นพิธึการ  แล้วก็ล้มหายตายจาก  ขาดความยั่งยืน  ไม่ได้คิดเรื่องรากฐานที่จะสามารถสร้างความยั่งยืนได้

ภูเขาน้ำแข็งไทยแลนด์  4.0  ยังมีเรื่องที่จมอยู่ใต้น้ำมากมายนัก

ไทยแลนด์  4.0  ยังต้องใช้เวลาอีกยาวนาน  ต้องผ่านการสูญเสีย  ผ่านบทเรียน  รัฐบาลต้องข้ามศพ Start Up ไปอีกจำนวนมาก

รัฐฐาลต้องมีสติ  นั่งลงแล้วคิด   สร้างพลัง  สร้างการทำงานร่วมกัน  ตั้งคำถาม  ตั้งโจทย์นวัตกรรมให้ชัดเจน  ต้องเป็นคำถามที่จะสร้างผลกระทบให้ใหญ่หลวง  สร้างแรงเหวี่ยงให้มากมายกว่าพายุหลาย ๆ ลูกรวมกัน  วันนั้น  คือจุดก่อตัวพายุไทยแลนด์  4.0 อย่างแท้จริง

Start Up ต้องคิด  ว่ามันไม่ง่ายอย่างนั้น  อย่างไรจะยั่งยืน

“สังคมตั้งแต่รากหญ้า  สูงขึ้นไปจนจดฝ้าเพดานทำเนียบฯ  ย่อมต้องมีความสัมพันธ์  พึ่งพาและเชื่อมโยง  ทำงานผ่านหลายแพลตฟอร์ม  แพลตฟอร์มที่จะต้องมีมาตรฐานการปฏิบัติ  มีสายพันธ์กรรม  มีการพัฒนา”

“แพลตฟอร์มมาตรฐาน   ความคิดที่ถูกต้องตั้งแต่เริ่มต้น  การพึ่งพาตนเอง  ปลอดหนี้  ทีมนักพัฒนาวิจัยภายในองค์กรที่แข็งแรง  มีจิตใจมุ่งมั่น   สร้างงานเพื่อองค์กร  เพื่อ  Digital  Transform  องค์กร”  คือ  สัญญาณเตือน  และคำแนะนำจากเรา

 

เราจะเดินให้สุด  ฉุดเครือข่ายนักพัฒนา  สร้างรายได้ที่มั่นคง  สร้างงานที่เข้มแข็ง  สร้างแพลตฟอร์มสังคมใหม่  คนไทยได้ประโยชน์

วันนั้นรัฐบาลจะตื่นรู้

ด้วยจิตคารวะ

6753total visits,6visits today

 

ใส่ความเห็น