Enterprise Architecture & IOT Platform

Digital Multiverse Ecosystem

Enterprise Architecture & IOT Platform

  • งานสถาปัตยกรรม   มีความสำคัญยิ่งต่อโครงการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่สำหรับการอยู่อาศัย  หรือสำหรับศูนย์การค้า
  • งานสถาปัตยกรรมผังเมือง  จำเป็นอย่างยิ่งก่อนที่จะสร้างบ้านแปลงเมืองให้มีระบบต่างๆ ถูกต้องสมบูรณ์
  • งานออกแบบโครงสร้าง  การพัฒนา  การแปรรูปองค์กรใดๆ  ทั้งภาคธุรกิจ  และภาครัฐ  ที่จะต้องดีพร้อม  ทุกมุมทุกองศา  ก่อนการก่อสร้างองค์กรเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในยุคดิจิตัล  ที่องค์กรโดยเฉพาะภาครัฐที่มีขนาดใหญ่มาก   มีความซับซ้อนมาก  ที่ต้องให้บริการประชาชนและนักลงทุนต่างชาติจำนวนมาก  ที่มี demand สูงๆ  เน้นความฉับไวมาก ๆ ก็จำเป็นที่จะต้องพลิกโฉมองค์กรให้มีประสิทธิภาพในการตอบสนองความต้องการ

ใช่ครับผมกำลังเกริ่นเรื่องความจำเป็นในการออกแบบสถาปัตยกรรมองค์กร (Enterprise Architecture)   เครือข่ายองค์กร  ทั้งทางกว้าง  และทางลึก  ให้มีการประสานสัมพันธ์กันอย่างมีประสิทธิภาพ   รวมไปถึงการมีระบบไอทีดิจิตัลที่สอดรับกับโครงสร้างองค์กรของภาครัฐอย่างแท้จริง

ระบบไอทีดิจิตัลที่จะติดตั้งใช้งานสำหรับภาครัฐ   จึงไม่ใช่เพียงการช็อปปิ้ง  ERP สำเร็จรูปมาใช้โดยให้ข้าราชการปรับตัว   ปรับกระบวนการการทำงานให้เข้ากับ ERP เหล่านั้น  ซึ่งล้วนเป็นสูญเสียในเชิงประสิทธิภาพ  ในเชิงระบบงาน   และเสียความเป็นอิสระภาพที่ภาครัฐอาจจะต้องตกเป็นทาส  ERP จากต่างด้าวสืบไปทั้งด้านค่าใช้จ่ายและการร้องขอการบริการในภายภาคหน้า

ถึงเวลาที่องค์กรภาครัฐ  จะได้ออกแบบองค์กรก่อน   โดยนำเอาหลักการออกแบบองค์กรสมัยใหม่  และสถาปัตยกรรมไอทีดิจิตัลประสมประสานกันเข้าไป   ผมหมายความว่าจำเป็นจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมไอที  และรู้ดีในเรื่องสถาปัตยกรรมโครงสร้างองค์กร  ปัญหาการไหลของงานในองค์กร  รวมไปถึงข้อกฏหมายของประเทศ  ให้มีการทำงานร่วมกันของคนในองค์กร (Callobrative)  ในการร่วมออกแบบงาน    โดยเปิดใจ  เปิดข้อเท็จจริง  ข้อบกพร่อง  จุดคอขวด  เพื่อออกแบบระบบที่แย่น้อยที่สุด   เมื่อเห็นว่าดีแล้วก็ถึงคราวการพัฒนาโปรแกรมระบบทางด้าน  ไอทีดิจิตัล  หรือ  ERP สำหรับภาครัฐ

ผมขอยกตัวอย่างแผนผัง  ส่วนประกอบงานในระบบ ERP มาให้ชมกัน    พร้อมกันนี้ก็นำเอาภาพเปรียบเทียบว่า  ผู้เล่นหรือผู้ผลิตและให้บริการ  ERP ต่าง ๆ นั้น  เน้น Module ไหนกันบ้าง

ภาพโครงสร้างส่วนประกอบ Module สำคัญ ๆ ในระบบ ERP

ผู้ผลิตและให้บริการ ERP  สำหรับองค์กร

ประการแรกที่จะสังเกตได้จากแผนผัง  คือ  ขนาด  หรือจำนวนของ  module  ที่มีอยู่มากมาย   และหากจะคิดพิจารณาต่อไปว่า  แล้วจะมีกี่องค์กร  กี่ภาคธุรกิจ  และองค์กรเหล่านั้นมีความต้องการ module  อะไรที่เหมือนกัน  มีความต้องการ module  อะไรที่ต่างกัน   หากนับรวมส่วนที่ต่างกันอาจจะได้ module นับ หมื่นนับแสนชิ้น  หากนับส่วนที่เหมือนกันอาจจะมีนับหมื่นนับแสนชิ้นเช่นกัน  และย่อมจะมีความต้องการนักพัฒนาจำนวนมาก  ทั้งในขั้นตอนการผลิต  ทดสอบและบริการหลังการขาย

มาถึงจุดนี้จึงจะเห็นในอีกมิติหนึ่งว่า  การพัฒนา ERP ไปสู่ธุรกิจนั้น  มีขนาด  มูลค่าตลาดที่ใหญ่มาก ๆ  หากผู้ใดสามารถผลิตออกมาโดยตอบโจทย์สารพัดได้ในระยะเวลาอันสั้นก็จะเป็นเจ้าตลาดได้อย่างง่ายดาย  แต่ความยากคือ  ใครจะออกแบบ 1  ERP  ให้ตอบโจทย์ใครได้ทั้งหมด   หมายความว่าสุดท้ายผู้นั้นก็จะเป็นเพียงผู้เล่น ERP ที่ผลิตเพียง  Module  หนึ่ง ๆ  อีกรายหนึ่งแค่นั้นเอง

แปลว่าหากองค์กรใด ๆ สามารถสร้างคน  ให้สามารถออกแบบสถาปัตกรรมโครงสร้างระบบงาน  และสร้างงาน module  ERP  ได้เอง  และประสานกับองค์กรที่เกี่ยวข้องได้  และทำขนานกันไป  ก็จะเกิดเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพ  ต้นทุนต่ำ  และมีความยั่งยืน  เครื่องมือ ERP ของระบบนั้นจะมีความสามารถตรงตามที่ต้องการ  ที่จะสามารถถ่ายทอด  ส่งมอบข้อมูล  รายงาน  การประมวลผลที่จำเป็นระหว่างกันได้  ก็จะยิ่งทำให้ระบบพัฒนาได้เร็ว และมีเสถียรภาพ

ในอีกมิติ  คือ  มิติการพัฒนา และการบำรุงรักษา   ใครจะเป็นผู้พัฒนา  จะพัฒนาด้วยระบบอะไร  และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา  จะต้องมีมูลค่าขนาดไหน  ต้องการบุคลากรกี่คน  ล้วนเป็นคำถามที่ใหญ่มาก ๆ

ภาพมิติ  ERP องค์กร  และ ERP ภาครัฐนั้นดูใหญ่มาก ๆ  แต่ก็สามารถอธิบายเทียบเคียงได้กับอีกเทรนด์หนึ่ง  ที่กำลังมาแรง และกำลังจะแซงนำทิ้งห่างเราไปอย่างรวดเร็ว  นั่นคือเรื่อง  ระบบ IOT   โดยภาพแรกที่นำเสนอนี้  คือ   Layer  หรือระดับชั้น  หรือ  Platform ย่อย ๆ ของระบบ IOT    ที่ไล่เรียงมาจากอุปกรณ์ระดับ ภาคสนาม  การส่งข้อมูล  การคำนวณแยกแยะข้อมูลเบื้องต้น  การจัดเก็บ การประมวลผล  ไปจนถึงการนำเสนอ  การใช้ประโยชน์จากข้อมูลร่วมกัน

ที่มา  Automation.com

ในแต่ละชั้นของระบบ IOT นั้นมีความต้องการ  3 ส่วน  คือ

  • การออกแบบภาพรวมระบบในแต่ละชั้น
  • การออกแบบการสื่อสารทะลุขึ้นไป  ลงไปยังชั้นล่าง   การออกแบบฮาร์ดแวร์  ในแต่ละชั้น  เช่น  ชั้นล่างต้องการอุปกรณ์ชนิดไหน   ส่วนชั้นเครือข่ายก็ต้องออกแบบว่าต้องการเครือข่าย  การสื่อสารชนิดไหน  และ
  • การออกแบบ  พัฒนาซอฟต์แวร์ในแต่ละชั้น  และให้ทั้งหมดมันร้อยเรียงคุยกัน  ทำงานกันได้ถูกต้อง

มีคำถามว่า  เราจะต้องการนักพัฒนาจำนวนมากมายแค่ไหน  และสามารถหาได้หรือไม่ในสภาพตลาดปัจจุบัน  คำตอบที่ผมขอท้าทายวงการเลยคือ  “ไม่มี ไม่มีเหลือ  และจะตายหมด   ต่างคนต่างอยู่  หรือจะมีการจับกลุ่มกันก็น้อยมาก  และจับกลุ่มกันก็เพื่อแข่งขันกับอีกกลุ่มหนึ่ง  และไม่นานก็จะมีผู้แพ้และเดินออกไปจากวงการ  ต่อมาก็จะเกิดการแข่งขันกันภายในกลุ่ม  จนต้องแยกทางกันไป”

จะเห็นว่า  ปัญหามีสองส่วนใหญ่คือ  เรื่อง

  • เทคนิค  เทคโนโลยีที่จะมาตอบโ๗ทย์ความต้องการขนาดใหญ่  ที่ซับซ้อน   และ
  • อีกด้านคือจิตวิญญาณ  พลังในการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกัน

มีคนกล่าวว่า   “ไทยแลนด์ 4.0  คำตอบ  คือ  คน”  แต่ผมขอแย้งว่า  คือ  “จิตวิญญาณ”  ของคนต่างหาก  หากคนมีจิตวิญญาณดี  คิดดี  ทำดี  มีความคิดในการร่วมกันทำงาน  มีกลไกในการควบคุมดูแลกันเอง  มีรายได้ที่ต่อเนื่องและมากเพียงพอ  ให้กินอิ่มนอนหลับ  ฝันดี  มีไอเดียบรรเจิด  งานที่ออกมาจากกลุ่มก้อนของพวกเขาเหล่านั้นก็จะเป็นงานสร้างสรร  มีคุณภาพ  และพวกเขาจะสร้างอะไรต่อไปอีกก็ได้  ประเทศนี้ก็จะเล็กนิดเดียวสำหรับพวกเขา

  • พวกเขาอยู่ที่ไหน  จะให้เกิดการรวมพลังกันได้อย่างไร

ผมได้แตกประเด็นออกมาไกล  ไกลมาก   ที่เริ่มจาก สถาปัตกรรม  ถึง  ERP องค์กร  ERP รัฐบาล  ถึง  สถาปัตยกรรมของ ไอโอที  มาจนถึงความจำเป็นในการสร้างนักพัฒนา  เพื่อความยั่งยืนและแข่งขันได้ของประเทศ

คำตอบอยู่ที่ไหน

  1. การมีเทคโนโลยีที่จำเป็นของตนเอง
  2. เทคโนโลยีที่มีสายพันธุ์ต้นแบบ
  3. เทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นขยายตัวเติบโตได้แบบเซล  แบบรังผึ้ง  ด้วยเทคโนโลยี  Microservices
  4. เทคโนโลยีที่สื่อสารได้ด้วย API กับเทคโนโลยีค่ายอื่น
  5. แนวคิดการสร้างคนอย่างมีเอกลักษณ์
  6. เทคนิคการพัฒนาคนเหล่านั้นให้สร้างงานได้รวดเร็ว
  7. พันธมิตร  แนวร่วม  หรือช่องทางการสนับสนุนด้านการเงิน
  8. โครงการหรือชิ้นงานเพื่อพิสูจน์ความสามารถ
  9. การสนับสนุนจากภาครัฐ

วันนี้เราอยากจะบอกว่า  เราเดินทางในที่สว่างมาแล้วใกล้ครบเวลา 2 ปี   เรามีการพัฒนาความพร้อมเป็นอย่างมากในระยะเวลาที่ผ่านมา    และเราปัจจัยพร้อมสำหรับข้อ  1 – 6  เราสามารถแสดงให้ท่านเห็นได้ว่าเทคโนโลยีและแนวคิดของเราสามารถตอบโจทย์ด้านไอทีดิจิตัลได้   นับมาตั้งแต่เรื่อง  IOT  ไปจนถึงงานระดับ Enterprise

ระดับชั้น  รูปแบบการให้บริการ

การออกแบบมองระบบรวมเปนชั้น ๆ ของแพลตฟอร์มย่อย  ที่มีส่วนเชื่อมโยงถึงกัน  มีองค์ประกอบการกระจายข้อมูลแบบ blockchain 

iSTEE & Samong platform  คือ  คำตอบที่ไม่ต้องพิสูจน์อีก  ผู้ที่กล้าหาญที่มองเห็นอนาคตเท่านั้น  ที่จะรีบหยิบฉวยโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้  และร่วมเดินทางไปกับเรา

องค์กรภาครัฐ  ภาคเอกชน  ที่สนใจในแนวคิดดังกล่าวแล้ว  สามารถติดต่อมาได้ที่   email : paipat.s@samongthailand.com

5052total visits,1visits today

ใส่ความเห็น